เรายินดีบริการ
ติดต่อเรา
เครื่องซักผ้าฝาหน้าซักผ้าได้นุ่มนวลเนื่องจากถังซักที่ขนานกับพื้น ซักได้โดยไม่ต้องจุ่มผ้าทั้งหมดลงในน้ำ เครื่องซักผ้าฝาหน้าอีเลคโทรลักซ์มีระบบเซ็นเซอร์วัดปริมาณเสื้อผ้าเพื่อบริหารการใช้น้ำได้ในปริมาณที่เหมาะสม จึงช่วยประหยัดน้ำ ผงซักฟอก และประหยัดพลังงาน โดยทั่วไปแล้วเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีโปรแกรมให้เลือกใช้งานมากกว่า ปั่นแห้งได้เร็วกว่าและทำงานเงียบกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน
อ่านต่อ : ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เครื่องซักผ้าฝาบนมีฝาสำหรับใส่เสื้อผ้าซักอยู่ด้านบน คุณจึงไม่ต้องก้มตัวเพื่อใส่ผ้าลงถังซัก สามารถเพิ่มเสื้อผ้าขณะเครื่องทำงานได้ เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นเก่าใช้เวลาซักน้อยกว่าเครื่องซักผ้าฝาหน้า แต่ก็ไม่สามารถติดตั้งเครื่องอบผ้าไว้บนเครื่องซักผ้าเพื่อประหยัดพื้นที่ได้
เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่นประหยัด มีระดับของการประหยัดน้ำและพลังงานที่คล้ายเคียงกับเครื่องซักผ้าฝาบน
อ่านต่อ : ความแตกต่างของเครื่องซักผ้าฝาบนและฝาหน้า
เริ่มจากการทำความสะอาดถังด้วยโปรแกรม Tub Clean Program ใส่น้ำยาทำความสะอาดหรือน้ำยาทำความสะอาดเครื่องซักผ้าลงในเครื่องเพื่อขจัดคราบผงซักฟอกที่ติดอยู่ในถังซัก จากนั้นเช็ดถังซักด้วยผ้าสะอาด เช็ดรอบๆ ขอบถัง ทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้ง
จากนั้นทำความสะอาดระบบจ่ายน้ำและผงซักฟอกเพื่อป้องกันการตัน ใช้น้ำร้อนและน้ำส้มสายชูถูให้ทั่ว และอย่าลืมทำความสะอาดตัวกรอง โดยดึงฝาปิดตัวกรองเพื่อดูว่ามีอะไรติดอยู่ข้างในหรือไม่
การทำความสะอาดท่อน้ำ ดึงสายออกและวางลงในถังน้ำอุ่นผสมสบู่แช่ไว้ประมาณ 3 นาที ใช้แปรงเล็กๆ ถูเบาๆ จุ่มน้ำ และตากไว้ให้แห้ง ถือสายข้างหนึ่งให้สูงขึ้นเพื่อเทน้ำและทำสลับกับสายอีกด้านเพื่อช่วยทำความสะอาดภายในท่อ หลังจากนั้นเช็ดด้วยผ้านุ่ม ติดตั้งเข้าที่
การทำความสะอาดภายในเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอทุก 1-2 เดือน เพื่อช่วยรักษาความสะอาด และขจัดกลิ่น สำหรับประเทศร้อนชื้นเช่นประเทศไทย ควรใช้ผ้าคลุมเครื่องซักผ้าเพื่อป้องกันฝุ่นและเชื้อรา ทั้งยังรักษาตัวเครื่องให้ดูใหม่อยู่เสมอ
อ่านต่อ : เรียนรู้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ตัวกรองของเครื่องซักผ้าฝาหน้ามักติดตั้งอยู่ที่ด้านล่างบริเวณหน้าเครื่องใต้ประตู ก่อนถอดแผงกั้นและตัวกรองให้ปิดเครื่องก่อนเสมอ เตรียมถาดรองน้ำและสิ่งสกปรกที่อาจติดมากับตัวกรอง และใช้พรมเช็ดพื้นเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกหล่นจากตัวกรอง
ตัวกรองของเครื่องซักผ้าฝาบนมักติดตั้งอยู่ภายในถังซักภานเครื่อง ใช้แปรงเล็กๆ และผ้าทำความสะอาด หากเป็นรุ่นที่ถอดได้ ให้ถอดออกมาล้างด้วยน้ำร้อน
ทำความสะอาดตัวกรองของเครื่องซักผ้าทั้งสองชนิดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อป้องกันอาการตันของเครื่องซักผ้า เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่บางรุ่นไม่จำเป็นต้องถอดตัวกรองออกมาเพื่อทำความสะอาด เนื่องจากมีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ เพียงเปิดเครื่องให้ทำงานเพื่อล้างตัวกรองเดือนละ 1 ครั้ง
อ่านเพิ่มเติม: คำแนะนำการทำความสะอาดเครื่องซักผ้าฉบับสมบูรณ์
เครื่องซักผ้าส่วนมากมีโปรแกรมที่ช่วยให้คุณเลือกการทำงานที่เหมาะสม อาทิ :
ซักธรรมดา : โปรแกรมนี้จะซักด้วยน้ำร้อนและความเร็วรอบปกติ ซึ่งน้ำร้อนจะช่วยขจัดคราบให้ผ้าขาว ชุดกีฬา ชุดชั้นใน ถุงเท้าและเสื้อยืด แต่อาจทำให้สีซีดจางเร็วขึ้น
ซักถนอมผ้า : เหมาะสำหรับการซักผ้าที่ต้องการการทะนุถนอมเป็นพิเศษ เสื้อผ้าบางตัวระบุให้ซักแห้งเท่านั้น คุณจึงควรอ่านแผ่นป้ายแนะนำก่อนการซัก โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับเสื้อสเวตเตอร์ผ้านุ่ม เสื้อลินิน และชุดกีฬาประเภทผ้าแห้งพิเศษ เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ได้รับการรับรองมาตรฐานการซักถนอมผ้า Woolmark ที่ช่วยซักถนอมเนื้อผ้า ซักได้แม้แต่เสื้อผ้าตัวที่ระบุให้ซักมือ
ซักสะอาดพิเศษ : เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่สกปรกเป็นพิเศษ โปรแกรมนี้จะทำงานนานกว่า และใช้น้ำที่อุ่นขึ้น พร้อมทั้งใช้ระบบหมุนเร็วพิเศษช่วยขจัดคราบที่ติดอยู่ให้หลุดออกอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านเพิ่มเติม: เครื่องซักผ้าใช้ยังไง ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
มีหลายเหตุผลที่เครื่องซักผ้าไม่ปล่อยน้ำออกจากถังซัก หากเครื่องซักผ้าของคุณยังคงมีน้ำอยู่หลังทำงานจบแล้ว นั่นหมายความว่าท่อน้ำออกหรือปั๊มน้ำมีปัญหา
ขั้นแรก ลองนำน้ำออกด้วยการถอดสายออกจากเครื่องโดยให้ปลายสายอยู่ต่ำกว่าตัวเครื่อง สำรวจสิ่งที่เข้าไปติดหรือทำให้ท่อตันและนำออกจากท่อ
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาบนท่อนี้จะอยู่ด้านหลังของเครื่อง ตรวจดูและนำสิ่งที่เข้าไปติดออกจากท่อ และติดตั้งคืนที่เดิม หากท่อน้ำไม่ใช่ปัญหา ปั๊มนำ้อาจจะเสีย ซึ่งในกรณีนี้ต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการแก้ปัญหา
สำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า ปั๊มจะติดตั้งอยู่บริเวณเดียวกับตัวกรองคือด้านล่างบริเวณหน้าเครื่องใต้ประตู ให้ปิดเครื่องก่อนเปิดแผงกั้นเสมอ เตรียมถาดเพื่อรองน้ำและสิ่งสกปรกที่อาจติดมา และใช้พรมเช็ดพื้นเช็ดสิ่งสกปรกที่ตกหล่นจากตัวกรอง
หากน้ำรั่วหลังเครื่องจบการทำงาน นั่นหมายความว่ามีการอุดตันในระบบระบายน้ำออก ทำให้มีน้ำค้างอยู่ในท่อ วิธีในการค้นหาจุดที่ตันให้เติมน้ำลงไปในท่อแล้วสังเกตว่าใช้เวลานานหรือไม่ที่น้ำจะเต็มท่อ หากไม่นานแสดงว่าจุดที่ตันอาจจะอยู่ใกล้ปลายสาย สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้งูเหล็กแบบสั้นๆ แต่ถ้าใช้เวลานานอาจะต้องใช้งูเหล็กขนาดกลางเพื่อแก้ไขจุดอุดตัน