เราทุกคนคงชอบความรู้สึกเวลาได้ผ้าเช็ดตัวนุ่ม ๆ มาพันรอบตัวหลังอาบน้ำอุ่น ๆ เสร็จ ซึ่งเคล็ดลับในการรักษาผ้าเช็ดตัวให้นุ่มและซับน้ำได้ดีก็อยู่ที่วิธีการซัก บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ขั้นตอนง่ายๆ ในการซักผ้าเช็ดตัวด้วยเครื่องซักผ้า เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าเช็ดตัวจะคงความนุ่มและใช้งานได้ดีไปอีกนาน
ผ้าเช็ดตัวควรซักบ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการซักผ้าเช็ดตัวขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม กฎทั่วไปของการซักผ้าเช็ดตัว คือ ควรซักหลังใช้งานทุก ๆ 3-4 ครั้ง เพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีและความนุ่มของผ้า
สำหรับผ้านหนูเช็ดมือและเช็ดหน้าที่มีการใช้บ่อย ควรซักทุกๆ 1-2 วัน เพื่อให้แน่ใจว่าผ้าสะอาดและปราศจากเชื้อโรค
ทำไมผ้าเช็ดตัวถึงแข็งกระด้างหลังการซัก?
เราซักผ้าเช็ดตัวโดยหวังว่าผ้าเช็ดตัวจะสะอาด นุ่มและฟู แต่ผ้าเช็ดตัวกลับออกมาแข็งและเป็นรอยยับเต็มไปหมด เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? สาเหตุของการผ้าเช็ดตัวที่แข็งกระด้างหลังซักมักเกิดจากการสะสมของผงซักฟอก การเกาะตัวของแร่ธาตุต่าง ๆ บนผ้า และการใช้รอบการซักที่ไม่ถูกต้อง
ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ตกค้างอาจสะสมอยู่บนผ้าเช็ดตัวในทุก ๆ การซัก ยิ่งไปกว่านั้น น้ำที่กระด้างยังสามารถทิ้งแร่ธาตุไว้ภายในเส้นใยผ้าได้ สารตกค้างเหล่านี้จึงทำให้ผ้าเช็ดตัวรู้สึกแข็งและซับน้ำได้น้อยลง
เมื่อคุณใส่ใจกับวิธีการซักและผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่คุณใช้ คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่า ผ้าเช็ดตัวของคุณยังจะซับน้ำได้ดีและให้สัมผัสที่นุ่มสบายทุกครั้งหลังการซัก
วิธีซักและตากผ้าเช็ดตัว
การรักษาผ้าเช็ดตัวให้นุ่มสบายนั้นต้องอาศัยความใส่ใจเวลามากกว่าแค่นำผ้าเข้าไปในเครื่องซักผ้า ซึ่งคำแนะนำที่ละเอียดทีละขั้นตอนของเราจะช่วยให้ผ้าเช็ดตัวของคุณนุ่ม ซับน้ำได้ดี และสะอาดสดชื่นอยู่เสมอ
ขั้นตอน 1: อ่านสัญลักษณ์ซักผ้าบนป้าย
ผ้าเช็ดตัวทุกผืนจะมาพร้อมกับป้ายสัญลักษณ์การดูแลผ้าซึ่งมีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับวิธีการซักและดูแลที่เหมาะสม บนป้ายจะระบุถึงอุณหภูมิของน้ำที่ควรใช้ รอบการซักที่แนะนำ ข้อมูลเกี่ยวกับการฟอกขาว และรอบการอบผ้าที่เหมาะสม การทำตามคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูแลผ้าเช็ดตัวได้อย่างถูกต้องซึ่งจะช่วยรักษาคุณภาพและอายุการใช้งานที่ยืนยาวได้
ขั้นตอน 2: แยกผ้าเช็ดตัวตามสีก่อนซัก
การแยกผ้าเช็ดตัวตามสีเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะป้องกันไม่เกิดการตกสี ซักผ้าเช็ดตัวสีขาวแยกจากผ้าเช็ดตัวที่มีสีเพื่อรักษาความสว่าง และซักผ้าเช็ดตัวสีเข้มด้วยกันเพื่อป้องกันไม่ให้สีซีดจางหรือสีตก
ขั้นตอน 3: จัดการของคราบบนผ้าก่อนซัก
แม้ว่าคราบบนผ้าเช็ดตัวจะเป็นฝังแน่น แต่จัดการกับคราบเหล่านี้ก่อนโยนเข้าเครื่องซักก็สามารถช่วยได้มาก เพียงใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาขจัดคราบเพียงเล็กน้อย ทาลงบนคราบโดยตรงแล้วใช้แปรงขนนุ่มแปรงเบา ๆ จากนั้นทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที เพื่อคราบสลายตัว
>>> อ่านเพิ่มเติม: 10 เคล็ดลับวิธีการดูแลเสื้อผ้า ให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
ขั้นตอน 4: นำผ้าเช็ดตัวเข้าเครื่องซัก
การซักผ้าเช็ดตัวอย่างถูกต้องช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสะอาดอย่างทั่วถึง สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรใส่ผ้ามากเกินไปต่อการซักหนึ่งรอบ เพราะผ้าเช็ดตัวแต่ละผืนต้องการพื้นที่เพียงพอในการเคลื่อนไหวระหว่างรอบการซัก แนวทางปฏิบัติที่ดีคือ ใส่ผ้าให้เต็มเพียง ¾ ของความจุเครื่องซักผ้าเท่านั้น
ขั้นตอน 5: เลือกผงซักฟอกที่เหมาะสม
การเลือกผงซักฟอกที่ถูกส่งผลต่อความสะอาดและความนุ่มของผ้าเช็ดตัว เช่น ผงซักฟอกประเภทประสิทธิภาพสูงจะเหมาะใช้กับเครื่องซักผ้าประสิทธิภาพสูง เพราะผงซักฟอกประเภทนี้จะให้ฟองน้อยกว่าและล้างออกได้ง่ายกว่า หรือ หากคุณอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีน้ำกระด้าง ก็ควรใช้ผงซักฟอกที่มีคุณสมบัติป้องกันการสะสมของแร่ธาตุบนเนื้อผ้า
อ่านเพิ่มเติม:
- ผงซักฟอกแบบน้ำ vs. ผงซักฟอก vs. เจลบอลซักผ้า: แบบไหนใช้ดีที่สุด?
- น้ำยาซักผ้าชนิดใด เหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ขั้นตอน 6: ตั้งค่าโปรแกรมและรอบการซักที่เหมาะสม
การตั้งค่าเครื่องซักผ้าให้เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญ น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนควบคู่และโปรแกรมการซักแบบ Heavy-duty ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำความสะอาดอย่างหมดจด ช่วยขจัดคราบและกำจัดแบคทีเรียได้ดี โดยเฉพาะกับผ้าเช็ดตัวสีขาว
อ่านคำแนะนำใน การเครื่องซักผ้าให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ในบทความของเรา
ขั้นตอน 7: ใช้ผลิตภัณฑ์การซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม
การใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของสารตกค้าง หากผ้าเช็ดตัวของคุณเริ่มแข็งตัว ให้เติมน้ำส้มสายชูกลั่น 1 ถ้วยในระหว่างรอบการล้าง เพื่อสลายผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่อาจตกค้างอยู่บนเนื้อผ้า และคืนความนุ่มให้กับเส้นใยของผ้าเช็ดตัว
ขั้นตอน 8: หลีกเลี่ยงการอบแห้งที่มากเกินไป
การปั่นแห้งมากเกินไปอาจทำให้ผ้าเช็ดตัวแข็งและหยาบได้ แนะนำให้ตั้งค่าเครื่องอบผ้าโดยใช้ไฟปานกลาง และนำผ้าเช็ดตัวออก ในขณะที่ผ้ายังเปียกอยู่เล็กน้อยแล้วผึ่งลมให้แห้ง
ขั้นตอน 9: สะบัดผ้าเช็ดตัว
การสะบัดผ้าเช็ดตัวออกก่อนและหลังการอบแห้งจะช่วยให้เส้นใยผ้าฟูตัว และถนอมความนุ่ม นอกจากนี้ยังช่วยกำจัดขุยผ้าอีกด้วย
ขั้นตอน 10: พับหรือแขวนผ้าเช็ดตัว
เมื่อผ้าเช็ดตัวแห้งแล้ว พับเก็บหรือแขวนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยยับและรักษารูปทรงของผ้า การพับหรือแขวนผ้าเช็ดตัวทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณดูเรียบร้อย และทำให้ผ้าเช็ดตัวสะอาด พร้อมใช้งานตลอดเวลา
อ่านเคล็ดลับและคำแนะนำวิธีการซักเสื้อผ้าหรือไอเทมอื่น ๆ ของคุณได้ในบทความของเรา
- วิธีซักผ้าสีให้สดใส สีสวย ไม่หมองซีด
- คำแนะนำวิธีซักผ้าปูที่นอนด้วยเครื่องซักผ้า
- วิธีซักและตากกางเกงยีนส์อย่างถูกต้อง
สำรวจฟีเจอร์ของเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ที่จะช่วยให้ผ้าเช็ดตัวของคุณสะอาดหมดจด
เครื่องซักผ้าของอีเลคโทรลักซ์ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะทำให้ผ้าเช็ดตัวของคุณสะอาด นุ่มฟู และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
ดีไซน์ถังซักที่เหนือชั้น
เครื่องซักผ้าของเรามีการออกแบบถังซักที่ซักได้ทั่วถึงแต่อ่อนโยน รักษาคุณภาพเนื้อผ้าของผ้าเช็ดตัวของคุณตลอดทุกรอบการซัก
จ่ายน้ำยาซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม
ระบบจ่ายผงซักฟอกที่มีประสิทธิภาพ รับประกันว่า หนึ่งรอบการซักจะใช้น้ำยาซักผ้าในปริมาณที่เหมาะสม ป้องกันสารตกค้างซึ่งอาจทำให้ผ้าเช็ดตัวแข็งกระด้าง
รอบการซักที่ปรับเปลี่ยนได้
ด้วยรอบการซักที่ปรับเปลี่ยนได้ คุณสามารถเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผ้าเช็ดตัวของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าเช็ดตัวทุกผืนจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
การใช้น้ำและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ออกแบบมาให้ประหยัดน้ำและพลังงาน ทำให้กิจวัตรการซักผ้าของคุณเป็นมิตรต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและกระเป๋าตังค์ของคุณ
อ่าน คำแนะนำการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า ของเราเพื่อเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์รุ่นที่เหมาะสมที่สุดกับบ้านของคุณ เลือกอีเลคโทรลักซ์เพื่อให้มั่นใจว่า เสื้อผ้าของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดี ด้วยวิถีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- SensorWash พร้อม AI ขจัด 49 คราบให้หมดจด
-
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
- SensorWash พร้อม AI ขจัด 49 คราบให้หมดจด
-
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
หยุดการผลิต
- SensorWash พร้อม AI ขจัด 49 คราบให้หมดจด
-
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
หยุดการผลิต
- UltraMix ขจัดคราบผงซักฟอกตกค้างบนเสื้อผ้า*
-
- PowerJet ซักสะอาดมั่นใจในทุกครั้ง
- ActiveFlow ป้องกันเสื้อผ้าพันกัน
หยุดการผลิต
- StainCare ขจัด 40 คราบฝังแน่นบนเสื้อผ้า*
-
- UltraMix ขจัดคราบผงซักฟอกตกค้างบนเสื้อผ้า*
- PowerJet ซักสะอาดมั่นใจในทุกครั้ง
หยุดการผลิต
- StainCare ขจัด 40 คราบฝังแน่นบนเสื้อผ้า*
-
- UltraMix ขจัดคราบผงซักฟอกตกค้างบนเสื้อผ้า*
- PowerJet ซักสะอาดมั่นใจในทุกครั้ง
หยุดการผลิต
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการซักผ้าเช็ดตัวด้วยเครื่องซักผ้า
-
ทำอย่างไรไม่ให้ผ้าเช็ดตัวแข็งกระด้างหลังซัก?
เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าเช็ดตัวแข็งกระด้างหลังซัก ใช้ผงซักฟอกตามปริมาณที่เหมาะสม ไม่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม และสะบัดผ้าเช็ดตัวก่อนใส่ลงเครื่องอบผ้า สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่มีน้ำกระด้าง แนะนำให้ใช้ผงซักฟอกที่ออกแบบมาสำหรับน้ำกระด้าง
-
ใช้น้ำยาฟอกขาวซักผ้าเช็ดตัวได้หรือไม่?
แม้สารฟอกขาวจะมีประสิทธิภาพในการขจัดคราบและทำให้ผ้าเช็ดตัวขาวขึ้น แต่ก็อาจทำให้เส้นใยของผ้าอ่อนตัวลง แนะนำว่า ควรสารฟอกขาวเท่าที่จำเป็นและใช้กับผ้าเช็ดตัวสีขาวเท่านั้น
-
ทำอย่างไรให้ผ้าเช็ดตัวที่เก่าและแข็งกลับมานุ่ม?
วิธีที่ดีในการทำให้ผ้าเช็ดตัวกลับมานุ่มทำได้ง่าย ๆ เพียงแช่ผ้าเช็ดตัวลงในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูกลั่นขาว 1 ถ้วย น่ำส้มสายชูจะช่วยสลายสารตกค้างจากผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มได้
-
ควรแยกผ้าเช็ดตัวตามสีทุกครั้งก่อนซักหรือไม่?
ควรแยกซักตามสี เพื่อป้องกันสีตกและรักษาสีสันของผ้าเช็ดตัวแต่ละผืน