ผ้าปูที่นอนควรซักบ่อยแค่ไหน?
ความถี่ในการซักผ้าปูที่นอนขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ซึ่งการซักผ้าปูที่นอนเป็นประจำไม่เพียงแต่จะสร้างสภาพแวดล้อมการนอนที่สะอาด แต่ยังช่วยรักษาสุขอนามัยของคุณอีกด้วย
มาดูปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจคุณควรคำนึงถึงเพื่อตอบคำถามว่า ผ้าปูที่นอนควรซักบ่อยแค่ไหน
- ปัจจัยส่วนบุคคล: หากคุณเป็นคนเหงื่อออกมากในตอนกลางคืน หรือชอบทานอาหารบนเตียง อาจจะต้องซักผ้าปูที่นอนบ่อยเสียหน่อย เช่น สัปดาห์ละครั้ง
- ปัจจัยด้านผิวหนัง: คนที่มีโรคทางผิวหนัง เช่น โรคสิวหรือโรคผิวหนังอักเสบ อาจจำเป็นต้องซักผ้าปูที่นอนบ่อย ๆ เพื่อให้แน่ใจว่ามีเตียงที่สะอาดอยู่เสมอ
- ปัจจัยด้านสภาพอากาศ: ในช่วงหน้าร้อน เรามักจะมีเหงื่อออกมาก ฉะนั้น ควรมีการซักผ้าปูที่นอนบ่อยกว่าในช่วงที่อากาศเย็น
- ปัจจัยด้านภูมิแพ้: หากคุณมีโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะภูมิแพ้ต่อฝุ่น การซักผ้าปูที่นอนอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งจะช่วยลดอาการภูมิแพ้ของคุณได้
อย่างน้อยแล้ว เราควรซักผ้าปูที่นอนทุก 1-2 สัปดาห์ หรือบ่อยกว่านั้นหากมีปัจจัยข้างต้นมากเกี่ยวข้อง การจัดตารางซักผ้าปูที่นอนที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคุณจะช่วยให้คุณมีที่นอนเตียงที่สะอาดและเหมาะสำหรับการพักผ่อนในทุก ๆ คืน
ขั้นตอนวิธีการซักผ้าปูที่นอนด้วยเครื่องซักผ้า
การดูแลผ้าปูที่นอนให้สะอาดเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากหากรู้วิธีที่ถูกต้อง ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ เราสามารถเปลี่ยนงานบ้านชิ้นนี้ให้เรียบง่ายและสนุกสนานได้
ด้านล่างนี้ เราได้แบ่งวิธีการซักผ้าปูที่นอนด้วยเครื่องซักผ้าออกเป็นขั้นตอนย่อย ๆ ที่ทำตามได้ง่าย ๆ เพื่อให้มั่นใจว่า คุณจะสามารถซักผ้าปูได้อย่างถูกวิธี ไม่เปลืองเวลา และได้มีผ้าปูที่นอนที่สะอาดสดชื่นทุกคืน
ขั้นตอน 1: เช็กดูสัญลักษณ์ซักรีดบนป้าย
ผ้าปูที่นอนทุกชุดมาพร้อมกับป้ายคำแนะนำการซักที่อยู่ตามตะเข็บหรือติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์ ป้ายนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซัก การอบแห้ง และการรีดที่เหมาะสม การดูแลผ้าปูตามคำแนะนำบนป้ายนี้ไม่เพียงแต่จะรับประกันความสะอาด แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานให้ผ้าปูที่นอนของคุณด้วย
ขั้นตอน 2: จัดการกับคราบก่อนซัก
ผ้าปูที่นอนมีแนวโน้มที่จะเกิดคราบต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น คราบเหงื่อ คราบครีมทาผิว หรือ คราบอาหารหกเลอะ ฉะนั้น ก่อนซักควรตรวจดูว่า ผ้าปูที่นอนของคุณมีคราบสกปรกหรือไม่ ใช้น้ำยาขจัดคราบสูตรอ่อนโยนหรือการใช้ผงซักฟอกเพียงเล็กน้อยถูเบา ๆ ลงบนคราบแล้วปล่อยทิ้งไว้ตามคำแนะนำการใช้น้ำยา วิธีนี้จะช่วยขจัดคราบฝังลึกบนผ้าปูที่นอนของคุณได้
อ่าน เคล็ดลับวิธีการดูแลเสื้อผ้า เพิ่มเติมในบทความของเรา.
ขั้นตอน 3: ใส่ผ้าปูที่นอนลงเครื่องและเติมผงซักฟอก
ทุกครั้งที่ใส่ผ้าปูที่นอนลงในเครื่องซักผ้า ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผ้าไม่มากเกินไปต่อหนึ่งการซัก เนื่องจากผ้าปูที่นอนต้องการพื้นที่ในการเคลื่อนไหวระหว่างการซัก เพื่อการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้น แนะนำให้ซักผ้าปูที่นอนแยกจากผ้าอื่น ๆ เพื่อป้องกันความเสียหายและเพื่อความสะอาดที่ทั่วถึง เติมผงซักฟอกสูตรอ่อนตามปริมาณที่แนะนำ และหลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรงซึ่งอาจทำให้ผ้าเสียหาย
อ่านเพิ่มเติม:
- ผงซักฟอกแบบน้ำ vs ผงซักฟอก vs เจลบอลซักผ้า: แบบไหนใช้ดีที่สุด?
- น้ำยาซักผ้าชนิดใด เหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ขั้นตอน 4: เลือกโปรแกรมการซักที่ถูกต้อง
รอบการซักและอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมจะทำให้คุณทำความสะอาดผ้าปูที่นอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านล่างนี้คือ วิธีตั้งค่ารอบการซักสำหรับผ้าปูที่นอนแต่ละประเภท:
- ผ้าฝ้าย: เลือกซักด้วยน้ำอุ่นและรอบการซักถนอมผ้าหรือแบบปกติ
- ผ้าลินิน: เลือกซักด้วยน้ำเย็นและรอบการปั่นแบบถนอมผ้า
- ผ้าซาติน ผ้าไหม: เลือกซักด้วยน้ำเย็นและโปรแกรม Delicate
- โพลีเอสเตอร์ผสม: เลือกซักด้วยน้ำอุ่นและโปรแกรมการซักแบบปกติ
- ผ้าสักหลาดหรือแฟลนแนล: เลือกซักด้วยน้ำเย็นและรอบการซักแบบถนอมผ้า
- ผ้าใยไผ่: เลือกซักด้วยน้ำเย็นและรอบการซักแบบถนอมผ้า
ผ้าแต่ละประเภทต้องการการดูแลที่ต่างกัน เพียงทำตามคำแนะนำเหล่านี้ ผ้าปูที่นอนของคุณก็จะอยู่ในสภาพที่ดีและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน อ่านวิธี ใช้เครื่องซักผ้า ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อการเลือกรอบการซักที่เหมาะกับผ้าปูที่นอนของคุณ
ขั้นตอน 5: ตากหรืออบแห้งตามคำแนะนำบนป้าย
เมื่อซักเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลาทำให้ผ้าปูที่นอนแห้ง หากคุณใช้เครื่องอบผ้า เลือกรอบการอบที่ใช้ความร้อนต่ำเพื่อป้องกันการหดตัวและความเสียหายของผ้า หรือตากผ้าปูที่นอนไว้ให้แห้งในบริเวณที่มีการระบายอากาศดี หรือตากในแดดเพื่อการฆ่าเชื้อแบบธรรมชาติและกลิ่นที่หอมสดชื่น เช็กว่า เสื้อผ้าและไอเทมชนิดไหน สามารถนำเข้าเครื่องอบได้ ในบทความของเรา
ขั้นตอน 6: พับและจัดเก็บผ้าปูที่นอนให้เรียบร้อย
เมื่อผ้าปูที่นอนของคุณแห้งสนิทแล้ว พับเก็บให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันรอยยับ เก็บไว้ในที่ที่เย็น แห้งและห่างจากแสงแดดเพื่อรักษาสีและคุณภาพของผ้า นอกจากนี้ การสลับใช้ผ้าปูที่นอนชุดต่าง ๆ ยังเป็นเทคนิคที่ดีที่จะช่วยให้ผ้าปูที่นอนแต่ละชุดไม่เก่าเร็ว
อ่านวิธีดูแลรักษาเครื่องนอนของคุณในบทความของเรา:
- คำแนะนำ : วิธีการอบเครื่องนอนชนิดต่างๆ ด้วยเครื่องอบผ้า
- คำแนะนำ : วิธีซักหมอน และอบหมอนเส้นใยโพลีเอสเตอร์
สัมผัสความสะดวกสบายในการซักผ้าปูกับอีเลคโทรลักซ์
เครื่องซักผ้าของอีเลคโทรลักซ์ ผสมผสานดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับการทำงานที่ไร้ที่ติ มอบประสบการณ์การซักผ้าปูที่นอนที่สะดวกและราบรื่น
รอบการซักที่ปรับเปลี่ยนได้
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการของคุณได้ เพียงเลือกโปรแกรมการซักที่เหมาะสมที่สุดผ้าปูที่นอนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าไหม และปล่อยให้เครื่องทำงาน มั่นใจได้ว่าจะได้ผ้าปูที่นอนที่สะอาดอย่างทั่วถึง
ระบบจ่ายน้ำยาซักผ้าที่แม่นยำ
บอกลาการกะปริมาณผงซักด้วยตาเปล่า เพราะเครื่องซักผ้าของเรามีระบบการจ่ายน้ำยาซักผ้าที่จะวัดปริมาณเหมาะสมสำหรับการซักแต่ละครั้ง ทำให้ซักได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังรักษาคุณภาพของเนื้อผ้าเอาไว้ด้วย
เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์มาพร้อมกับเทคโนโลยี UltraMix ที่ผสมผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าผงซักฟอกละลายตัวหมดก่อนจะถูกฉีดลงในถังซัก ฟีเจอร์สุดฉลาดตัวนี้ช่วยไม่ให้มีผงซักฟอกตกค้างอยู่บนเสื้อผ้า ทำความรู้จักฟีเจอร์นี้เพิ่มเติมได้ในวิดิโอ:
ดีไซน์ถังซักที่เหนือชั้น
หัวใจสำคัญของเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์คือ การดูแลรักษาเนื้อผ้าอย่างอ่อนโยน เครื่องซักผ้าของเรามีการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้แน่ใจว่า ผ้าปูที่นอนของคุณจะออกมากนุ่มฟูและสดใสเหมือนใหม่ทุกครั้งหลังการซัก
ทำงานอย่างประหยัดพลังงาน
อีเลคโทรลักซ์ให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เครื่องซักผ้าของเราจึงมีการออกแบบที่สอดคล้องกับหลักการข้อนี้ ทุกรอบการซักจะให้การทำความสะอาดที่ทั่วถึงและใช้พลังงานอย่างประหยัด ช่วยให้ผ้าปูที่นอนของคุณสะอาดสดชื่น เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานของเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์เป็นส่วนหนึ่งของวิถีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ทุกการซักเป็นหนทางไปสู่โลกที่น่าอยู่ขึ้น
ดู เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่นท็อปของเรา:
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
-
- รอบการซักด่วน เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ
- ปรับอุณหภูมิการซักให้เหมาะสมกับเสื้อผ้าแต่ละชนิด
หยุดการผลิต
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
-
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
หยุดการผลิต
- SensorWash พร้อม AI ขจัด 49 คราบให้หมดจด
-
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
หยุดการผลิต
- StainCare ขจัด 40 คราบฝังแน่นบนเสื้อผ้า*
-
- UltraMix ขจัดคราบผงซักฟอกตกค้างบนเสื้อผ้า*
- PowerJet ซักสะอาดมั่นใจในทุกครั้ง
หยุดการผลิต
- UltraMix คงสีสันสดใสให้กับเสื้อผ้า
-
- มอเตอร์อินเวอเตอร์เงียบ ประหยัด และทนทาน
- TubClean คงความสะอาดภายในถังซักอยู่เสมอ
- UltraMix คงสีสันสดใสให้กับเสื้อผ้า
-
- มอเตอร์อินเวอเตอร์เงียบ ประหยัด และทนทาน
- TubClean คงความสะอาดภายในถังซักอยู่เสมอ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการซักผ้าปูที่นอนด้วยเครื่องซักผ้า
-
ผ้าปูที่นอนทุกชนิด สามารถซักด้วยเครื่องได้หรือไม่?
ผ้าปูที่นอนส่วนใหญ่สามารถซักด้วยเครื่องได้ แต่อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบฉลากของผ้าปูเพื่อดูคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการซักที่ถูกต้องด้วย
-
ซักผ้าปูที่นอน ควรใช้ผงซักฟอกแบบไหน?
แนะนำให้ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน ซึ่งสามารถทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังอ่อนโยนต่อเนื้อผ้า ช่วยรักษาคุณภาพและอายุการใช้งานของผ้าปูได้
-
ผ้าปูที่นอนใหม่ ควรซักก่อนใช้หรือไม่?
ควรซักก่อนใช้ เพราะการซักผ้าปูที่นอนใหม่จะช่วยขจัดสารเคมีที่ตกค้างจากการผลิตและทำให้เนื้อผ้านุ่มขึ้น มั่นใจได้ถึงความสบายในการใช้งานครั้งแรก
-
จะป้องกันผ้าปูที่นอนไม่ให้ย่นหรือยับได้อย่างไร?
ป้องการผ้าปูที่นอนยับง่าย ๆ แค่นำผ้าปูที่นอนออกจากเครื่องทันทีหลังซักเสร็จ และปั่นแห้งด้วยความเร็วต่ำหรือผึ่งให้แห้ง จัดผ้าให้เรียบตอนผึ่งก็จะช่วยป้องกันการเกิดรอยยับรอยยับได้
-
สารฟอกขาว สามารถใช้กับผ้าปูที่นอนได้หรือไม่?
ใช้สารฟอกขาวเฉพาะกับผ้าปูที่นอนสีขาวที่เป็นผ้าฝ้าย และหลีกเลี่ยงการฟอกขาวผ้าปูที่นอนที่มีสีสันหรือผ้าที่ละเอียดอ่อน เพราะจะทำให้สีซีดหรือเนื้อผ้าเสียหายได้