ชีวิตเต็มไปด้วยโมเมนต์ที่สนุกและมีสีสัน และเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณก็อาจจะเปรอะเปื้อนระหว่างที่คุณกำลังเพลินกับโปรเจก DIY หรือจากการสัมผัสสียังไม่แห้งโดยไม่ได้ตั้งใจ คราบสีเปื้อนเสื้ออาจเป็นอะไรที่น่าปวดหัว แต่หากคุณรู้วิธีการจัดการกับมัน คุณก็สามารถจะสามารถขจัดคราบสีออกไปได้อย่างง่ายดาย
เตรียมเสื้อก่อนขจัดคราบ
ก่อนจะเริ่มลงมือกำจัดคราบสีบนเสื้อ คุณควรรู้ก่อนว่า สีที่เปื้อนเป็นสีประเภทไหน โดยทั่วไปแล้ว สีจะแบ่งออกเป็น สีสูตรน้ำและสีสูตรน้ำมัน
- สีสูตรน้ำ ที่พบได้บ่อยได้แก่ สีอะคริลิกที่มักใช้ในงานศิลปะหรืองานฝีมือ และ สีลาเท็กซ์ที่ใช้เพื่อทาสีผนังห้องหรือเพดาน
- สีสูตรน้ำมัน จะมีความมันวาวมากกว่าสีสูตรน้ำและมักถูกใช้ในการทาสีโครงสร้าง ตู้ เหล็ก ประตูไม้ และอีกมากมาย
วิธีขจัดคราบจากสีสูตรน้ำ
สีสูตรน้ำอย่างอะคริลิกและสีลาเท็กซ์สามารถพบได้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา สีเหล่านี้มักเป็นตัวเลือกที่เราใช้ในโปรเจกการแต่งบ้าน DIY ในกิจกรรมศิลปะของเด็ก ๆ หรือแม้กระทั่งในกับโปรเจกงานอาร์ต ที่เป็นงานอดิเรกของหลาย ๆ คน ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากที่สีจะกระเด็นมาเปื้อนเสื้อระหว่างที่ทาสีห้อง ทำงานอาร์ต หรืองานฝีมือ และข่าวดีก็คือ สีสูตรน้ำค่อนข้างจะล้างออกได้ง่าย
สิ่งที่ต้องใช้
- น้ำอุ่น
- ผ้าสะอาดหรือกระดาษเช็ดมือ
- ผงซักฟอก
- อุปกรณ์เสริม (หากมี) ; น้ำยาขจัดคราบ น้ำยาล้างสีเล็บแบบไม่มีอะซิโตน สเปรย์จัดทรงผม หรือแอลกอฮอล์ที่ใช้เช็ดทำความสะอาด
เครื่องมือ/อุปกรณ์
- ช้อนหรือมีดที่ไม่คม
- เครื่องซักผ้าของอีเลคโทรลักซ์
ขั้นตอนที่ 1: กำจัดคราบสีส่วนเกิน
ใช้ช้อนหรือมีดขูดเอาสีที่แห้งแล้วออกจากเนื้อผ้า
ขั้นตอนที่ 2: ล้างด้วยน้ำอุ่น
กลับด้านเสื้อและใช้น้ำอุ่นล้างผ่านๆ บริเวณที่เปื้อนสี หรือจะใช้ผ้า/กระดาษเช็ดมือชุบน้ำอุ่นซับลงบนคราบสีก็ได้
ขั้นตอนที่ 3: ทาด้วยผงซักฟอก
ผสมน้ำอุ่นกับผงซักฟอกในอัตราส่วนเท่ากัน แล้วทาลงบนคราบสี ใช้ผ้าหรือกระดาษเช็ดมือซับออก ล้างและทำซ้ำจนกว่าคราบสีจะหลุด
บทความคำแนะนำการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่เหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
ขั้นตอนที่ 4: ใช้น้ำยาขจัดคราบ (หากจำเป็น)
หากใช้ผงซักฟอกแล้ว คราบสียังไม่หลุดออก ควรใช้น้ำยาขจัดคราบเข้ามาช่วยโดยซักล้างตามคำแนะนำที่อยู่บนฉลาก
ขั้นตอนที่ 5: ล้างด้วยตัวช่วยเสริม
สำหรับคราบสีที่ฝังแน่นมาก ๆ ควรซับด้วยน้ำยาล้างเล็บแบบไม่ผสมอะซิโตน สเปรย์จัดทรงผม หรือแอลกอฮอล์ และอย่าลืมล้างเสื้อผ่านน้ำอุ่นก่อนนำไปซัก
ขั้นตอนที่ 6: ปรึกษาร้านซักรีด
หากทำตามทุกขั้นตอนแล้ว ยังมีคราบหลงเหลืออยู่ แนะนำให้ปรึกษาร้านซักรีดที่เป็นมืออาชีพ
วิธีขจัดคราบจากสีสูตรน้ำมัน
สีสูตรน้ำมันขึ้นชื่อเรื่องความติดทนและผิวที่มันวาว มักถูกใช้ในงานทาสีเฟอร์นิเจอร์ งานไม้ และของตกแต่งภายนอกอาคาร ในระหว่างที่กำลังตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ คุณก็อาจเผลอตัวยืนพิงกับส่วนที่สียังไม่แห้ง หรือทำแปรงตกและทำให้เสื้อเปรอะโดยไม่ได้ตั้งใจ
จริงอยู่ ที่คราบสีสูตรน้ำมันเป็นรอยเปื้อนที่ค่อนข้างจะติดแน่น แต่คุณก็สามารถกำจัดมันด้วยวิธีที่ถูกต้องได้ดังนี้
สิ่งที่ต้องเตรียม
- ผ้าสะอาดหรือกระดาษเช็ดมือ
- น้ำมันสนหรือทินเนอร์
- น้ำร้อน
- น้ำยาล้างจาน
- อุปกรณ์เสริม (หากมี) : น้ำยาขจัดคราบ
เครื่องมือ/อุปกรณ์
- เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์
ขั้นตอนที่ 1: ซับคราบสี
กลับด้านเสื้อแล้ววางเสื้อบนผ้าสะอาดหรือกระดาษเช็ดมือ ซับบริเวณที่เปื้อนสีด้วยน้ำมันสนหรือทินเนอร์ให้สีหลุดออกให้ได้มากที่สุด
ขั้นตอนที่ 2: ล้างด้วยน้ำสะอาด
ล้างบริเวณที่เปื้อนสีด้วยน้ำอุ่น
ขั้นตอนที่ 3: ทาน้ำยาล้างจานแล้วแช่
ทาน้ำยาล้างจานลงบนคราบสี แล้วแช่ผ้าลงในน้ำร้อน ทิ้งไว้ข้ามคืน แต่ควรอ่านป้ายเสื้อเพื่อเช็กดูอุณหภูมิน้ำที่เหมาะสมกับการซักก่อน
ขั้นตอนที่ 4: ซักล้าง
หลังจากผ่านไปหนึ่งคืน นำเสื้อออกมาแล้วล้างให้สะอาดก่อนนำไปซักตามปกติ
ขั้นตอนที่ 5: ซักอีกครั้งหากสียังอยู่
หากคราบยังฝังแน่นอยู่บนเสื้อ แนะนำให้ใช้น้ำยาขจัดคราบแล้วซักตามปกติอีกครั้ง เช็กให้แน่ใจว่าคราบสีออกหมดจดแล้วก่อนตากหรือปั่นแห้ง
ชมคลิปวิธีการขจัดคราบสีฝังแน่นบนเสื้อผ้า
วิธีการใช้งานเครื่องซักผ้าที่ถูกต้องบทความที่จะช่วยให้คุณสามารถเลือกโปรแกรมการซักผ้าได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
เคล็ดลับเสริมสำหรับการขจัดคราบสี
การกำจัดรอยสีที่เปื้อนบนเสื้อเป็นอาจจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญเนื่องจากมีขั้นตอนเยอะ แต่ด้วยวิธีที่ถูกต้องบวกกับความอดทน คราบทุกคราบก็สามารถถูกกำจัดได้ แต่ก่อนเริ่มจะทำความสะอาดเสื้อที่เปื้อนสี เราควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- จัดการทันที: ยิ่งคุณเริ่มล้างสีเร็ว คราบสีก็จะยิ่งออกง่าย สีที่เพิ่งเปื้อนยังจะไม่ฝังลึกลงไปในเส้นใยของผ้า ทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายและมักจะไม่เป็นคราบติดนาน
- ซับสีอย่างเบามือ: เวลาเห็นว่าสีเพิ่งเปื้อนใหม่ ๆ คุณอาจจะรู้สึกอยากขยี้มันให้ออกโดยทันที แต่ก็ขยี้หรือถูในบริเวณรอยสีจะทำให้คราบสีฝังตัวลึกมากขึ้น และอาจทำให้รอบเปื้อนกระจายเป็นวงใหญ่กว่าเดิม วิธีที่ถูกต้องคือ การซับ เพื่อให้เม็ดสีหลุดออกจากเสื้อและไม่กระจายตัว
- เช็กดูคำแนะนำการซักล้างบนป้ายเสื้อก่อนทำความสะอาดเสมอ: ผ้าแต่ละชนิดต้องการวิธีการดูแลที่ต่างกัน ผ้าบางชนิดอาจไม่ถูกกับสารเคมีหรือต้องใช้น้ำในอุณหภูมิที่เหมาะสมในการซัก การเช็กป้ายเสื้อก่อนเริ่มทำความสะอาดก็เหมือนเป็นการป้องกันไม่ให้เสื้อของคุณเสียหายมากกว่าเดิม, ช่วยให้เสื้อผ้าของคุณใช้งานได้ยาวนาน
- ความอดทนคือสิ่งจำเป็น: สีบางชนิดบางยี่ห้ออาจติดทนกว่าที่คุณคิด และการทำความสะอาดเพียงครั้งเดียวอาจไม่เพียงที่จะกำจัดรอยเปื้อนออก แต่การทำซ้ำ หรือการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจะสามารถช่วยได้
แก้ปัญหาเสื้อเปื้อนสีอย่างสร้างสรรค์
หากคุณทำตามทุกขั้นตอนและได้ลองทุกวิธีแล้ว แต่คราบสีก็ยังไม่หมดอยู่ดี อย่าเพิ่งท้อใจและอย่าเพิ่งโยนเสื้อตัวนั้นทิ้ง บางครั้งคราบสีที่เปื้อนก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นลวดลายที่สวยงามได้ ลองคิดถึงวิธีการที่จะเปลี่ยนรอยเปื้อนให้เป็นความสวยงาม อย่างเช่น ไอเดียการทำเสื้อมัดย้อม หรือการสาดสี ที่จะช่วยให้เสื้อที่เปื้อนของคุณกลายเป็นเสื้อที่ดูเก๋และมีดีไซน์
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยได้คือ การประทับรอยเปื้อนด้วยชิ้นผ้า แพทช์ หรือลูกไม้ เพิ่มเพื่อสไตล์ให้กับเสื้อของคุณ หรือหากคุณไม่ชอบวิธีสร้างสรรค์ประเภทนี้ เสื้อที่เปื้อนของคุณก็ยังสามารถถูกใช้เป็นองค์ประกอบของงานฝีมือได้ เช่น เปลี่ยนเสื้อให้เป็นถุงผ้า ผ้าคลุม หรือปลอกหมอน อย่าลืมว่า ความสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขต เพียงใช้จินตนาการ เสื้อที่เปรอะเปื้อนก็สามารถกลายเป็นงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครได้แล้ว
อ่านเพิ่มเติม :
สิ่งที่หลายคนมักทำพลาดในการทำความสะอาดคราบบนเสื้อ
- ถูหรือขยี้แรงเกินไป ทำให้เม็ดสีกระจายกลายเป็นรอยเปื้อนที่ใหญ่กว่าเดิม
- ใช้น้ำร้อนในการล้างคราบที่มีส่วนผสมของโปรตีน คราบเปื้อนเหล่านี้จะแข็งตัวเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน ทำให้ฝังแน่นกว่าเดิม
- ไม่ทำการทดลอง Patch test ก่อน ก่อนใช้สารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ในการทำความสะอาดเสื้อ ควรมีการตรวจสอบกับจุดเล็ก ๆ บนเสื้อก่อนว่า สารเคมีตัวนี้จะทำลายเส้นใยผ้าหรือทำให้สีจางหรือไม่
- ไม่อ่านป้ายเสื้อให้ชัดเจน ผ้าบางชนิดต้องการการดูแลแบบพิเศษและเฉพาะตัว หากไม่ทำตามจะสามารถทำให้เสื้อเสียหายได้
วิถีซักล้างแบบยั่งยืนกับอิเล็กโทรลักซ์
ที่อิเล็กโทรลักซ์ เราใส่ใจมากกว่าการซักล้างที่เต็มประสิทธิภาพ เรามุ่งมั่นในวิถีปฏิบัติที่ยั่งยืนและใส่ใจในการทะนุถนอมเสื้อผ้าของคุณ เครื่องซักผ้าของเรามีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ไม่เพียงแค่กำจัดคราบได้หมดจดแต่ยังคงความสดใสเหมือนใหม่ของเสื้อผ้าคุณ ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น 2 ตัว ดังนี้
- เทคโนโลยี UltraMix: เทคโนโลยีที่ช่วยให้ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้เสื้อผ้าของคุณสะอาด ในขณะที่สียังสดและไม่เก่าหมอง
- UltraWash: ฟีเจอร์สุดล้ำช่วยให้ผ้าถูกซักอย่างให้สะอาดหมดจด แต่ยังคงความอ่อนโยน ขจัดแม้แต่คราบที่ฝังแน่นมีสุดแต่ไม่ทำร้ายเส้นใยเสื้อผ้าหรือสีของเสื้อ
เลือกซื้อเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์
>>> อ่านเพิ่มเติม : คำแนะนำการเลือกซื้อเครื่องซักผ้า
ใหม่
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
-
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
เพิ่มเติม
หยุดการผลิต
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
-
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
เพิ่มเติม
หยุดการผลิต
ใหม่
- UltraMix หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้า*
-
- HygienicCare ขจัดสารก่อภูมิแพ้และเชื้อโรคได้ 99.9%*
- มอเตอร์ EcoInverter ประหยัดพลังงาน 50%*
เพิ่มเติม
หยุดการผลิต