การใช้เครื่องอบผ้าช่วยให้คุณประหยัดเวลาและไม่เหนื่อยแรง โดยเฉพาะการอบแบบด่วนหรืออบให้พอหมาด การทำความเข้าใจว่าเครื่องอบผ้าใช้ยังไง นอกจากจะทำให้เสื้อผ้าแห้งสนิทแล้วยังช่วยยืดอายุการสวมใส่ให้กับเสื้อผ้า การตั้งค่าเครื่องอบผ้าที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันเสื้อผ้าหดตัว สีซีดจาง หรือเนื้อผ้าเสียหายได้
ขั้นตอนโดยสรุปของการใช้เครื่องอบผ้า:
- เตรียมเสื้อผ้าที่ต้องการอบ: ตรวจสอบฉลากดูแลเสื้อผ้าและแยกเสื้อผ้าตามประเภทของผ้า
- นำเสื้อผ้าใส่เข้าเครื่องอบ: ไม่ควรใส่เสื้อผ้าปริมาณมากเกินไป เพื่อการหมุนเวียนลมภายในเครื่องที่สะดวก
- เลือกรอบการอบ เวลา และอุณหภูมิ: เลือกตั้งค่าให้เหมาะสมกับประเภทของผ้า
- เริ่มต้นการอบ: กดปุ่มเพื่อเริ่มทำงาน และแสดงข้อมูลการอบผ้า
- นำเสื้อผ้าออกจากเครื่องอบผ้า: ควรนำเสื้อผ้าออกจากเครื่องอบทันที เพื่อป้องกันรอยยับ
บทความคำแนะนำนี้จะช่วยบอกเคล็ดลับที่มากกว่าการใช้งานพื้นฐาน แต่จะช่วยให้คุณดูแลและอบเสื้อผ้าด้วยเครื่องอบผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปกป้องเนื้อผ้า และยืดอายุการสวมใส่ให้ยาวนาน
ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมเสื้อผ้าที่ต้องการอบ
การแยกประเภทเสื้อผ้าก่อนอบจะช่วยให้เครื่องอบผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เสียเวลาในการแยกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อความแห้งสนิทของเสื้อผ้าทุกชิ้น และคงคุณภาพของเสื้อผ้าให้สวมใส่ได้ยาวนาน
คำแนะนำก่อนนำผ้าเข้าอบใน เครื่องอบผ้า
แยกประเภทเสื้อผ้าก่อนเสมอ
ก่อนนำเสื้อผ้าใส่เข้าในเครื่องอบผ้าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแยกชนิดผ้าและสีของเสื้อผ้า ผ้าต่างชนิดกัน เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าวูล และผ้าใยสังเคราะห์ ต้องการอุณหภูมิในการอบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ผ้าชนิดบอบบางอย่างผ้าวูลต้องใช้อุณหภูมิต่ำในการอบ ส่วนผ้าเช็ดตัวเนื้อหนาต้องใช้ความร้อนที่สูงกว่า การแยกสีของเสื้อผ้าช่วยป้องกันการตกสี ไม่ควรอบผ้าสีเข้มและสีอ่อนรวมกัน
นอกจากนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าชิ้นนั้นสามารถอบด้วยเครื่องอบผ้าได้หรือไม่ เนื้อผ้าบางชนิดอย่างผ้าสแปนเด็กซ์ไม่ควรอบด้วยเครื่องอบผ้า อ่านข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของเสื้อผ้าที่ไม่ควรนำเข้าเครื่องอบได้จาก เสื้อผ้าชิ้นไหนไม่ควรอบด้วยเครื่องอบผ้า
ตรวจสอบฉลากดูแลเสื้อผ้า
ขั้นตอนสำคัญในการอบผ้าคือการตรวจสอบฉลากดูแลเสื้อผ้า ซึ่งฉลากจะแสดงข้อมูลการอบหรือการทำให้เสื้อผ้าแห้งอย่างเหมาะสม พร้อมข้อมูลอุณหภมิในการอบ ควรตรวจสอบเพื่อป้องกันการหดตัว สีซีดจางหรือเส้นใยเสียหายจากการอบผ้า
ทำความเข้าใจกับสัญลักษณ์การดูแลเสื้อผ้าได้จากบทความ วิธีการอ่านฉลากดูแลเลื้อผ้า
ขจัดความชื้นเบื้องต้น
ก่อนนำเสื้อผ้าเข้าในเครื่องอบผ้า ควรบิดผ้าให้หมาดเพื่อทำให้อบผ้าแห้งได้เร็วขึ้นและประหยัดพลังงาน
การบิดหมาดสำหรับผ้าเนื้อหนา เช่น ผ้าเช็ดตัวหรือผ้ายีนส์ ช่วยให้เครื่องอบผ้าไม่ทำงานหนักจนเกินความจำเป็น อบแห้งได้ไวและแห้งสนิท
คลายผ้าออกจากกัน
คลี่และคลายผ้าที่พันกันออกก่อนนำเข้าเครื่องอบผ้า ผ้าปูที่นอนและชุดเดรสยาว หรือกางเกงยีนส์อาจจะพันกันหรือม้วนเป็นก้อนหลังซักเสร็จ ทำให้ลมร้อนภายในเครื่องอบ อบได้อย่างไม่ทั่วถึง คลายผ้าที่พันกันออกก่อนนำเข้าเครื่องอบผ้าจะช่วยให้ผ้าอบแห้งสนิททั่วถึงและลดรอยยับ
ขั้นตอนที่ 2 : นำผ้าเข้าเครื่องอย่างถูกต้อง
การนำผ้าเข้าเครื่องอบผ้าอย่างเหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการอบผ้าให้มีประสิทธิภาพและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น เพียงทำตามคำแนะนำด้านล่างที่ช่วยให้คุณไม่อบผ้ามากเกินไป หรือเกิดปัญหาผ้าแห้งไม่สนิท
เพื่อการอบผ้าให้แห้งสนิทอย่างทั่วถึง การกระจายเสื้อผ้าภายในเครื่องอบเป็นสิ่งสำคัญ :
- เขย่าผ้าก่อนนำเข้าเครื่องอบ เพื่อป้องกันการผ้าพันกันเป็นก้อน
- ผสมผ้าชิ้นเล็กและใหญ่ : จัดสมดุลระหว่างผ้าเนื้อหนาอย่างผ้าเช็ดตัวหรือกางเกงยีนส์ กับผ้าน้ำหนักเบาเช่น เสื้อเชิร์ต เพื่อให้ผ้าทุกชิ้นแห้งสนิท อย่างทั่วถึง
- ไม่ปนผ้าต่างชนิดกัน : ควรอบผ้าเนื้อหนาหนักแยกจากผ้าชิ้นบอบบาง เพื่อป้องกันความเสียหายของผ้า และเพื่อความแห้งสนิททุกชิ้น
เท่านี้คุณก็จะอบผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมถนอมผ้า
ขั้นตอนที่ 3 : เลือกรอบอบผ้าที่เหมาะสม
การตั้งค่ารอบการอบของเครื่องอบผ้าที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องคุณภาพของเสื้อผ้า พร้อมช่วยให้เสื้อผ้าแห้งสนิทอย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องอบผ้ารุ่นใหม่มีตัวเลือกรอบการอบที่หลากหลาย และนี่คือคำแนะนำการเลือกรอบอบที่เหมาะสมสำหรับเสื้อผ้าของคุณ
ตั้งค่าอุณหภูมิ
- ความร้อนสูง : เหมาะสำหรับผ้าที่ทนทาน เช่น ผ้าเช็ดตัว ผ้ายีนส์และชุดเครื่องนอน ไม่เหมาะสำหรับผ้าเนื้อบอบบางที่อาจหดตัว
- ความร้อนปานกลาง : เหมาะสำหรับผ้าใยสังเคราะห์ เช่นผ้าโพลีเอสเตอร์ ทำให้ผ้าแห้งไวกว่าการใช้ความร้อนต่ำ แต่ถนอมผ้ามากกว่าความร้อนสูง
- ความร้อนต่ำ : เหมาะสำหรับผ้าเนื้อบอบบางเช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ และชุดชั้นใน เพื่อป้องกันความเสียหายของเนื้อผ้า
- ไม่ใช้ความร้อน/อบด้วยลม :: อบด้วยลมอุณหภูมิห้อง เหมาะสำหรับผ้าที่ไม่เหมาะกับความร้อน หรือหมอน
คำแนะนำ : ตรวจสอบฉลากดูแลเสื้อผ้าก่อนการเลือกระดับอุณหภูมิเสมอ เพื่อป้องกันการเสียหายที่อาจเกิดกับเนื้อผ้า
ตั้งเวลา
- รอบอบสั้น (30-45 นาที) : เหมาะสำหรับผ้าปริมาณน้อยและผ้าที่มีน้ำหนักเบา
- รอบอบยาว (60-90 นาที) : เหมาะสำหรับผ้าเนื้อหนักเช่นผ้าเช็ดตัว ผ้าห่ม หรือผ้ายีนส์
หากเครื่องอบผ้าของคุณมีเซ็นเซอร์อัตโนมัติจะช่วยปกป้องเสื้อผ้าจากการอบมากเกินไป และประหยัดพลังงาน หากปรับระยะเวลาเองควรระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าเสียหาย
รอบอบถนอมผ้าสำหรับเสื้อผ้าชิ้นบอบบาง
รอบอบถนอมผ้าสำหรับผ้าชิ้นบอบบางเป็นพิเศษ เช่น ผ้าไหม ผ้าลูกไม้ หรือชุดชั้นใน รอบอบที่นุ่มนวลเหมาะสำหรับผ้าที่น้ำหนักเบาหรือผ้าใยสังเคราะห์ที่ต้องการหลีกเลี่ยงรอยยับ
รอบอบไอน้ำ (ตัวเลือกพิเศษ)
เครื่องอบผ้ารุ่นใหม่มักจะมีรอบอบไอน้ำ ที่จะช่วยคืนความสดชื่นให้กับเสื้อผ้า พร้อมลดรอยยับโดยไม่ต้องซักใหม่
- คืนความสดชื่นด้วยไอน้ำ : เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่เก็บไว้นานโดยไม่ได้สวมใส่
- ไอน้ำขจัดเชื้อโรค : เหมาะสำหรับเสื้อผ้าทารก หรือเครื่องนอน ที่ต้องการความสะอาดเป็นพิเศษ
การเลือกรอบการอบที่ถูกต้องจะช่วยปกป้องเสื้อผ้าจากความเสียหาย อบได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดเวลา!
อ่านเพิ่มเติม : โปรแกรมการซักผ้าบอบบาง : คืออะไรและใช้งานอย่างไร
ขั้นตอนที่ 4 : การดูแลเครื่องอบผ้าหลังการใช้งาน
การดูแลเครื่องอบผ้าให้อยู่ในสภาพดีจะช่วยให้เครื่องอบผ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้อย่างปลอดภัย และนี่คือวิธีการดูแลเครื่องอบผ้าหลังการใช้งาน :
ทำความสะอาดตัวกรอง
ทำความสะอาดตัวกรองขุยผ้าเพื่อให้ลมร้อนหมุนเวียนในเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีเส้นใยขุยผ้าเกาะที่ตัวกรองมากๆ จะทำให้อบผ้าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
วิธีทำความสะอาด :
- นำตัวกรองขุยผ้าออกมา
- นำขุยผ้าและเส้นใยที่ติดอยู่ออกด้วยมือหรือแปรง
- ล้างน้ำอุ่นหากสกปรกมาก และรอให้แห้งสนิท
การทำความสะอาดตัวกรองขุยผ้าเป็นประจำจะช่วยรักษาประสิทธิภาพในการอบผ้า และอบผ้าได้รวดเร็วขึ้น
ตรวจสอบเซ็นเซอร์ความชื้น
เครื่องอบผ้ารุ่นใหม่จะมีเซ็นเซอร์ความชื้นติดตั้งอยู่ โดยทำหน้าที่หยุดการอบหากผ้าแห้งสนิทแล้ว ตัวเซ็นเซอร์ที่สกปรกอาจทำให้ตรวจสอบความชื้นได้ไม่แม่นยำ
วิธีทำความสะอาด :
- ปิดสวิทช์เครื่องอบผ้า
- เช็ดเซ็นเซอร์ให้สะอาดด้วยผ้านุ่มๆ จุ่มน้ำส้มสายชูเล็กน้อย เพื่อเช็ดคราบผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม
การดูแลเซ็นเซอร์ให้สะอาดอยู่เสมอช่วยให้การทำงานของเครื่องอบผ้ามีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดพลังงาน
ทำความสะอาดท่อลมร้อน (สำหรับระบบลมร้อน)
เครื่องอบผ้าระบบลมร้อนควรทำความสะอาดท่อลมร้อน เพื่อป้องกันการสะสมของขุยเส้นใยผ้า ซึ่งอาจอุดตันลมและทำให้เครื่องเกิดความร้อนสูงได้
วิธีทำความสะอาด :
- ถอดท่อลมร้อนออก
- ใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงขจัดขุยผ้าหรือเส้นใย
- ตรวจสอบว่าท่อสะอาดดีแล้ว จากนั้นติดตั้งเข้าที่
ท่อลมร้อนที่อุดตันจะลดประสิทธิภาพการใช้งานและอาจไม่ปลอดภัยอีกด้วย
ตรวจสอบถังอบและตัวเครื่องภายนอก
เช็ดทำความสะอาดถังอบและตัวเครื่องเพื่อให้เครื่องอบผ้าสะอาดปราศจากฝุ่นผง คราบผงซักฟอก หรือขุยผ้า
คำแนะนำ : ตรวจสอบฉลากการดูแลเสื้อผ้าและคู่มือการใช้งานเครื่องอบผ้า เพื่อถนอมเสื้อผ้าและยืดอายุเครื่องอบผ้าให้ใช้งานได้ยาวนาน
ขั้นตอนการดูแลด้านล่างจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องอบผ้า ประหยัดพลังงาน และปลอดภัยเมื่อใช้งาน
ข้อห้ามการใช้เครื่องอบผ้า
เพื่อให้เครื่องอบผ้าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ อบผ้าได้ถนอมเนื้อผ้า ควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ :
อย่าใส่ผ้าปริมาณมากเกินไป
การใส่ผ้าในเครื่องอบผ้ามากเกินไปอาจจะดูเหมือนช่วยประหยัดเวลา แต่จะทำให้ลมภายในเครื่องหมุนเวียนไม่ดี ผ้าแห้งไม่สนิท การใส่ผ้ามากเกินไปอาจทำให้มอเตอร์ได้รับความเสียหายในระยะยาว
หลีกเลี่ยงการอบเสื้อผ้าที่มีชิ้นส่วนโลหะ
ซิป เข็มขัด ตะขอ อุปกรณ์เหล่านี้อาจครูดเข้ากับถังอบและทำให้เกิดความเสียหายได้ กลับตะเข็บด้านซิปไว้ด้านใน หรือเกี่ยวตะขอเอาไว้ระหว่างอบ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับถังอบ
ห้ามอบเสื้อผ้าที่มีป้าย “ห้ามอบด้วยเครื่อง”
ตรวจสอบฉลากดูแลเสื้อผ้าก่อนนำเสื้อผ้าเข้าในเครื่องอบเสมอ ผ้าบางชนิด เช่น ผ้าขนสัตว์ ผ้าไหม หรือผ้าใยสังเคราะห์ที่บอบบาง อาจหดตัว ละลาย หรือเสียรูปทรงเมื่อเจอกับความร้อน
ตรวจสอบกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนอบ
ตรวจสอบว่าในกระเป๋าของเสื้อผ้าไม่มีสิ่งของอยู่ด้านในก่อนนำเข้าเครื่องอบผ้า กระดาษชำระที่ลืมทิ้งไว้ในกระเป๋าอาจทำให้เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน เหรียญ ปากกา หรือกุญแจ อาจทำให้ถังอบเสียหายหรือเกิดไฟลุกไหม้ได้
ทำไมจึงควรเลือกอีเลคโทรลักซ์ เพื่อการอบผ้าที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การใช้เครื่องอบผ้าอย่างเหมาะสมคือปัจจัยสำคัญในการรักษาคุณภาพของเสื้อผ้า การตั้งค่าการอบที่พอเหมาะและดูแลบำรุงรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลา พลังงาน และยืดอายุการใช้งานของเสื้อผ้า
เครื่องอบผ้าอีเลคโทรลักซ์ ออกแบบมาให้มีนวัตกรรมในการคงประสิทธิภาพของการอบผ้าพร้อมดูแลถนอมเนื้อผ้าไปพร้อมกัน อาทิ เทคโนโลยี 3DSense และ SensiCare MixedDry ปรับการอบให้เหมาะกับระดับความชื้นของเสื้อผ้าอัตโนมัติ Hygiene ให้คุณอบผ้าพร้อมขจัดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ยังได้รับการรับรอง WoolMark Blue ว่าสามารถอบผ้าขนสัตว์ได้อย่างปลอดภัย พร้อมประหยัดพลังงานช่วยคุณเซฟค่าไฟในทุกรอบการอบ
เครื่องอบผ้าที่มีเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เลือกซื้อ เครื่องอบผ้าอีเลคโทรลักซ์ UltimateCare เครื่องที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
-
- อบเสื้อขนเป็ดและผ้านวมได้แห้งสนิท
- อบเสื้อผ้าชิ้นบอบบางอย่างทะนุถนอม
- อบผ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงานมากขึ้น 60%