โปรแกรมซักผ้าบอบบางใน เครื่องซักผ้า ออกแบบมาเพื่อดูแลผ้าที่มีเส้นใยบอบบาง และอาจได้รับความเสียหายขณะซัก โปรแกรมซักผ้านี้จะมีรอบการหมุนที่ช้าลง พร้อมรอบบิดหมาดที่นุ่มนวล เพราะสำหรับผ้าไหม ผ้าลูกไม้ ผ้าขนสัตว์ และเสื้อผ้าที่มีความบอบบาง หากไม่ได้รับการซักที่ถูกต้องเนื้อผ้าอาจจะเสียทรง ลุ่ย หรือขาดได้
บทความนี้จะช่วยอธิบายการทำงานของโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า พร้อมขั้นตอนการใช้งาน เพื่อการซักผ้าชิ้นบอบบาง หรือชุดโปรดของคุณให้ยังดูสวยและสวมใส่ได้ยาวนาน
โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าในเครื่องซักผ้าคืออะไร
โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าในเครื่องซักผ้า ออกแบบรอบการซักมาเพื่อผ้าชิ้นบอบบางโดยเฉพาะ รอบซักนี้จะใช้การหมุนที่ช้า และบิดหมาดอย่างนุ่มนวล ลดการยืดหรือขาดเสียหายให้กับเนื้อผ้า รอบซักถนอมผ้านี้จะใช้อุณหภูมิต่ำในการซัก ช่วยถนอมเนื้อผ้าจากความร้อน ไม่ทำให้เสียทรง หดตัว หรือยืดย้วย
โปรแกรมการซักนี้เหมาะสำหรับผ้าไหม ผ้าลูกไม้ ผ้าขนสัตว์ หรือผ้าชนิดที่ระบุบนฉลากว่า “บอบบาง” หรือบางครั้งฉลากอาจะระบุว่า “นุ่มนวล” หรือ “ซักด้วยมือ” การซักด้วยโปรแกรมถนอมผ้าจะช่วยคงรูปทรง ความนุ่ม และคุณภาพของเสื้อผ้า
เปรียบเทียบรอบการซักทั่วไป กับ รอบการซักถนอมผ้า
เครื่องซักผ้ามีรอบการซักที่หลากหลาย เหมาะกับเสื้อผ้าหลากหลายชนิดและระดับความเปื้อน ข้อมูลต่อไปนี้ช่วยแนะนำการเปรียบเทียบระหว่างรอบการซักทั่วไป กับโปรแกรมซักผ้าบอบบาง
รอบการซักของเครื่องซักผ้า |
รอบปกติ |
สำหรับการรีดผ้า |
ขจัดคราบหนัก |
โปรแกรมซักผ้าบอบบาง |
---|---|---|---|---|
รอบปั่นและบิดหมาด |
แรงปั่นสูง ใช้ความเร็วในการบิดหมาดสูง |
แรงปั่นปานกลางใช้ความเร็วในการบิดหมาดปานกลาง |
แรงปั่นสูง ใช้ความเร็วในการบิดสูงเป็นเวลานาน |
แรงปั่นต่ำใช้ความเร็วในการบิดหมาดต่ำ |
เหมาะสำหรับ |
ผ้าเนื้อหนา เช่น ผ้าฝ้าย ยีนส์ และผ้าโพลีเอสเตอร์ |
ผ้าใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์ เรยอน และเนื้อผ้าผสม |
ผ้าที่มีคราบสกปรกมาก เช่น ผ้าเช็ดตัว เครื่องนอน และชุดทำงาน |
ผ้าเนื้อบอบบาง เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าลูกไม้ หรือผ้าปัก |
ควรใช้เมื่อไหร่ |
สำหรับเสื้อผ้าประจำวัน ที่สามารถซักแบบใช้แรงได้ เช่น ยีนส์ เสื้อยืด ผ้าลินิน ยกเว้นเสื้อผ้าชิ้นบอบบาง |
ผ้าใยสังเคราะห์ ไม่เหมาะกับผ้าไหม ลูกไม้ หรือผ้าขนสัตว์ |
ผ้าเปื้อนคราบสกปรก แต่อาจจะทำให้เนื้อผ้าที่บอบบางเสียหายได้จากการปั่นและบิดที่แรง |
สำหรับผ้าที่บอบบาง ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ป้องกันการยืดย้วยและเสียหาย เหมาะสำหรับเสื้อผ้าที่ระบุให้ “ซักด้วยมือ” |
3 คุณประโยชน์ ของการซักด้วยโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า ของเครื่องซักผ้า
การใช้โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าของเครื่องซักผ้านั้นมีประโยชน์กับเสื้อผ้าเนื้อบอบบางมากมาย ดังต่อไปนี้ :
ปกป้องเนื้อผ้าบอบบางจากการยืดย้วยและขาด
ด้วยรอบการหมุนและบิดหมาดความเร็วต่ำ ช่วยปกป้องเนื้อผ้าที่บอบบาง แรงบิดที่ลดลงจะช่วยปกป้องไม่ให้ผ้าขาดหรือเสียหาย
ป้องกันการยืดย้วย หดตัว และเสื้อผ้าเสียหาย ด้วยการใช้อุณหภูมิต่ำและแรงหมุนที่น้อย โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าจะช่วยป้องกันการยืดย้วยเสียทรง หรือหดตัว
ยืดอายุการใช้งาน และดูใหม่ให้กับเสื้อผ้า
โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าช่วยดูแลเนื้อผ้า ความนุ่มนวล และช่วยให้เนื้อผ้าดูใหม่ ทั้งผ้าไหม ผ้าลูกไม้ และผ้าขนสัตว์ เสื้อผ้าจะใช้งานได้ยาวนานและดูสวยในทุกครั้งที่ซัก
เมื่อไหร่ และเสื้อผ้าชนิดใด ที่ควรซักด้วยโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า
โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าเหมาะสำหรับผ้าบางชนิด และบางสถานการณ์ :
- สำหรับผ้าเนื้อบอบบาง : ผ้าไหม ผ้าลูกไม้ ซาติน หรือแคชเมียร์ เป็นเนื้อผ้าที่อาจได้รับความเสียหายจากการบิดที่รุนแรง และความร้อน โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าจะช่วยดูแลอย่างทะนุถนอม
- เสื้อผ้าที่มีฉลาก “ซักด้วยมือเท่านั้น” เสื้อผ้าบางชื้นระบุว่า “ซักด้วยมือเท่านั้น” ที่ ฉลากดูแลเสื้อผ้า สามารถซักได้อย่างปลอดภัยด้วยโปรแกรมซักผ้าบอบบาง ช่วยให้ดูแลเสื้อผ้าสบายกว่าการซักด้วยมือ
- สำหรับเสื้อผ้าที่มีการเย็บปัก : เสื้อผ้าที่ปักด้วยลูกปัด เป็นผ้าปัก เลื่อม ต้องใช้การปั่นและบิดที่ช้า เพื่อป้องกันการเสียหายของลายปัก
ทั้งนี้ควรแยกเสื้อผ้าตามสีและชนิดของเสื้อผ้า เมื่อใช้โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า เพราะการผสมหลายเนื้อผ้าในรอบซักเดียว ผ้าชิ้นที่หนักและหนาจะเสียดสีเข้ากับชิ้นบอบบาง ทำให้เกิดการขาดหรือยืด รวมทั้งเสื้อผ้าสีเข้มอาจตกสีได้
คำแนะนำทีละขั้นตอน : วิธีการใช้งานโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า
การใช้งานโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้าที่เหมาะสม จะช่วยดูแลเสื้อผ้าชิ้นบอบบางอย่างทะนุถนอม ใช้งานได้ยาวนาน ต่อไปนี้คือคำแนะนำเพื่อปกป้องเสื้อผ้าของคุณ :
ขั้นตอนที่ 1 : แยกประเภทเสื้อผ้าที่จะซัก และซักเฉพาะผ้าชิ้นบอบบาง
การแยกเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการผสมผ้าชิ้นบอบบางรวมกับเสื้อผ้าเนื้อหนัก จะทำให้เกิดการเสียดสีและเกิดความเสียหายได้ เนื้อผ้าที่บอบบางอาจขาด ยืดย้วย หรือติดเข้ากับเสื้อผ้าชิ้นหนัก เช่น ยีนส์หรือผ้าเช็ดตัว
ขั้นตอนที่ 2 : กลับผ้าด้านนอกเข้าด้านในและนำใส่ถุงตาข่ายซักผ้า เพื่อป้องกันการพันกัน
กลับเสื้อด้านนอกเข้าไว้ด้านในเพื่อป้องกันการเสียดสีกับเสื้อผ้าชิ้นอื่น ลดความเสี่ยงของการขาด นำใส่ในถุงตาข่ายสำหรับซักผ้าเพื่อปกป้องเพิ่มอีกชั้น ป้องกันเสื้อผ้าชิ้นบอบบางจากการพันเข้ากับซิปหรือสิ่งอื่นๆ ที่แหลมคม
ขั้นตอนที่ 3 : ใช้น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยน สำหรับเสื้อผ้าชิ้นบอบบาง
เลือกใช้น้ำยาซักผ้าที่อ่อนโยนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสารเคมีในน้ำยาซักผ้าที่รุนแรงจะส่งผลต่อเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าบอบบางหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน น้ำยาซักผ้าสำหรับเสื้อผ้าบอบบางนั้นจะช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าโดยไม่ทำลายเส้นใยธรรมชาติหรืออุปกรณ์ตกแต่งของเสื้อผ้า
ขั้นตอนที่ 4 : เลือกโปรแกรมการซักผ้าถนอมผ้า และเลือกอุณหภูมิน้ำที่พอเหมาะ (อุ่นหรือเย็น)
รอบการซักผ้าถนอมผ้าใช้การปั่นและบิดหมาดที่ช้า เหมาะสำหรับผ้าเนื้อบอบบาง การเลือกอุณหภูมิน้ำที่ซักก็เช่นกัน - น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นจะช่วยป้องกันการหดตัว สีซีดจาง หรือทำลายเส้นใยผ้า จากการซักด้วยน้ำร้อน
ขั้นตอนที่ 5 : หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าบอบบาง เช่น ผ้าไหม
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดี แต่แท้จริงแล้วสามารถทำลายเนื้อผ้าที่บอบบางได้ โดยเฉพาะผ้าไหม สารเคมีในน้ำยาปรับผ้านุ่มจะเคลือบเส้นใยผ้าที่บอบบาง ลดความนุ่มของเส้นใยธรรมชาติและความเงางาม จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับเส้นใยที่บอบบาง
ขั้นตอนที่ 6 : ตากผ้าด้วยลม หรือใช้ความร้อนต่ำอบหากจำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้า
การตากผ้าให้แห้งด้วยลมเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเสื้อผ้าที่บอบบาง เพราะช่วยดูแลเส้นใยจากความร้อนหรือความเสี่ยงจากการหดตัว หากจำเป็นต้องใช้เครื่องอบผ้าให้ปรับค่าไปที่ความร้อนต่ำ เพื่อป้องกันการทำลายเส้นใยและไม่ทำให้เสียทรง
วิธีการซักผ้าชิ้นบอบบางด้วยมือ หากคุณไม่มีโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า
หากเครื่องซักผ้าของคุณไม่มีโปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า การซักผ้าด้วยมือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับเสื้อผ้าชิ้นบอบบาง และนี่คือวีธีการ :
2. ใส่น้ำยาซักผ้าชนิดอ่อนโยน เพื่อป้องกันสารเคมีทำลายเส้นใยผ้า
3. ใช้มือวนในน้ำสองสามนาที ขยี้เบาเพื่อให้สิ่งสกปรกหลุดออกโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า
4. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จนมั่นใจว่าไม่มีน้ำยาซักผ้าตกค้าง
5. ค่อยๆ บีบ (อย่าบิด) น้ำออกจากเสื้อผ้า จากนั้นวางเสื้อผ้าในแนวราบ หรือแขวนตากให้แห้งด้วยลม
ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยเมื่อใช้โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า
แม้จะเลือกใช้โปรแกรมซักผ้าถนอมผ้า ก็อาจมีข้อผิดพลาดบางอย่างที่ทำให้เสื้อผ้าเสียหายได้ การใส่เสื้อผ้าในเครื่องซักผ้ามากเกินไป เป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อยมากที่สุด เมื่อถังซักเต็มแน่นจนเกินไป เสื้อผ้าจะไม่มีพื้นที่ว่างสำหรับการเคลื่อนไหว ทำให้เกิดผ้าพันกันและทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้
การใช้น้ำยาซักผ้าปริมาณมากเกินไป คราบน้ำยาซักผ้าจะติดอยู่ที่เนื้อผ้าชิ้นบอบบาง ทำให้เกิดผิวสัมผัสที่สากกร้าน เหนียว จึงควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพอย่างนุ่มนวล อ่านบทความ น้ำยาซักผ้าชนิดใด เหมาะกับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
และข้อสุดท้าย หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือการปั่นด้วยรอบเร็วสูง น้ำร้อนจะทำลายเส้นใยที่บอบบาง อาจทำให้หดหรือเสียทรง ในขณะที่การรอบปั่นความเร็วสูงจะทำลายเนื้อผ้า โดยเฉพาะผ้าไหมหรือผ้าลูกไม้ น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นและการปั่นด้วยรอบความเร็วต่ำจึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการดูแลเสื้อผ้า
เพื่อการซักผ้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยเครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์
อีเลคโทรลักซ์ แบรนด์ระดับโลกที่เชื่อถือได้ถึงการคิดค้นนวัตกรรม คุณภาพ และความมุ่งมั่นของการเป็นผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นเวลากว่าศตวรรษที่ เครื่องซักผ้า อีเลคโทรลักซ์ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลเสื้อผ้าอย่างดีที่สุด
คุณสมบัติของเทคโนโลยี SensorWash ที่ช่วยดักจับสิ่งสกปรกพร้อมปรับระดับการซักล้างโดยอัตโนมัติ ช่วยดูแลเสื้อผ้าอย่างทะนุถนอม สะอาดโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า
ยืดอายุการใช้งานเสื้อผ้าชิ้นบอบบางของคุณ ด้วยรอบการซักถนอมเนื้อผ้าอีเลคโทรลักซ์ หรือเลือกตั้งค่าให้เหมาะสมตามต้องการ ซักสะอาดประหยัดพลังงาน เพื่อการดูแลเสื้อผ้าอย่างทะนุถนอม เครื่องซักผ้าอีเลคโทรลักซ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุ้มค่ากับการลงทุน ทั้งการซักที่สะอาดล้ำลึกและดูแลถนอมผ้าไปพร้อมกัน
เลือกซื้อ เครื่องซักผ้าฝาหน้า รุ่นยอดนิยม :
- Intellidose คำนวณการจ่ายน้ำยาซักผ้าอย่างแม่นยำ
-
- IntelliQuick เลือกโปรแกรมซักด่วนอัตโนมัติที่เหมาะกับเสื้อผ้ามากที่สุด
- SensorWash ขจัดคราบ 53 ชนิดให้หมดจด*
- SensorWash ขจัดคราบ 53 ชนิดให้หมดจด*
-
- IntelliQuick เลือกโปรแกรมซักด่วนอัตโนมัติที่เหมาะกับเสื้อผ้ามากที่สุด
- คืนความสดชื่นให้กับเสื้อผ้าด้วยไอน้ำ โดยไม่ต้องซักใหม่
- หมดปัญหาคราบผงซักฟอกตกค้างบนเนื้อผ้าด้วย UltraMix*
-
- ซักเสื้อผ้าปริมาณเต็มถังให้สะอาดหมดจด ในเวลาเพียง 45 นาที
- Sanitise ขจัดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้ 99.99%*